วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

การกรอกออนไลน์ยื่นเอกสารวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ

เขียนโดย Unknown ที่ 21:46 0 ความคิดเห็น
บล๊อกนี้เป็นบล๊อกต่อเนื่องจากการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าท่องเที่ยว

ประเทศอังกฤษแบบมีสปอนเซอร์นะคะ  ^ ^

เมื่อเราเตรียมเอกสารครบแล้วเราก็มาเริ่มทำการลงทะเบียนในเว็บไซต์นี้เลยคะ www.visa4uk.fco.gov.uk/  


พอเข้ามาทีjเว็บไซต์ก็เจอหน้าเว็บนี้เลยคะ เราก็คลิกไปที่ ( Register an Account ) พอเข้าไปก็จะไปเจอหน้านี้คะ


หน้านี้จะเป็นหน้าที่ให้เรากรอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราคะ กรอกให้ครบตามความจริงทุกอย่่างคะ พอกรอกเสร็จก็จะมีการให้ตั้ง password เพื่อทำการล๊อคอินในการกรอกข้อมูลการขอวีซ่าคะ พอเสร็จกระบวนการทุกอย่างก็จะมีการให้คอนเฟิร์มอีเมล์ เราก็ไปคอนเฟิร์มอีเมล์คะ
พอหลังจากคอนเฟิร์มอีเมล์เรียบร้อยแล้วเราก็กลับเข้าไปที่เว็บไซต์ www.visa4uk.fco.gov.uk/  อีกครั้งคะเพื่อทำการล๊อกอินเข้าไปกรอกข้อมูลสำหรับการขอวีซ่าคะ  เมื่อล๊อคอินเข้าไปเรียบร้อยแล้วจะมาเจอหน้านี้คะ

พอเข้ามาที่หน้านี้นะคะ ก็เข้าไปคลิกตรงคำว่า ( Go To Application ) ข้างในหน้าเว็บนี้จะเป็นการกรอกข้อมูลกับพ่อแม่และบุตร รวมถึงการทำงาน เงินเดือน เงินเก็บ ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ค่าที่พัก ค่าครองชีพเมื่ออาศัยอยู่ที่นุ้น รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสปอนเซอร์ด้วยนะคะ ฯลฯ ทุกคำถามจะมีภาษาไทยให้เราด้วยคะ

การเข้าไปกรอกออนไลน์ เราสามารถเข้าไปปรับแก้ข้อมูลได้ตลอดเวลานะคะ ถ้าเรายังไม่กดคอนเฟริมคะ  หากกดคอนเฟริมไปแล้วเราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรใดๆได้อีกแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นเราควรตรวจข้อมูลให้แน่ใจก่อนว่าเรากรอกถูกตรงหรือไม่ ก่อนที่จะกดคอนเฟริมคะ

เมื่อเราคิดว่าได้กรอกข้อมูลถูกต้องแล้ว เราก็มากดคอนเฟริมกันคะ หลังจากกดคอนเฟริมเรียบร้อยมันจะพาเราไปที่หน้า ที่เรากรอกข้อมูลต่างๆตั้งแต่ข้อแรก จนถึงข้อสุดท้ายและด้านล่างให้เราพิมพ์ชื่อจริงนามสกุลลงไปเพื่อไว้สำหรับช่องลายเซ็น หลังจากนั้นมันจะให้เราคลิกคอนเฟริมอีกครั้งคะ 

หลังจากนั้นมันจะพาเราไปที่หน้านัดวันจองยื่นเอกสารที่ vfs คะ หลังจากเราเลือกวันเรียบร้อยแล้วก็กด next คะ มันจะให้เราทำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าคะ 

หลังจากชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าเรียบร้อยแล้ว เราถึงจะทำการปริ้นเอกสารทั้งหมดได้รวมถึงใบนัดยื่นเอกสารที่ vfs ด้วยคะ 

กระบวนการก็มีแค่นี้นะคะ หลังจากนี้ก็คือรอให้ถึงวันนัดยื่นเอกสารคะ รอแล้วก็รอคะ 

หากผิดพลาดประการใดในการเขียนบล๊อกนี้ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า

คร๊าาา มือใหม่หัดเขียนคะ 










วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเตรียมเอกสารยื่นขอวีซ๋าท่องเที่ยวแบบมีสปอนเซอร์คะ

เขียนโดย Unknown ที่ 03:00 0 ความคิดเห็น
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนคร๊าาา วันนี้นัทก็จะมาบอกเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอังกฤษแบบมีสปอนเซอร์และพวกเอกสารคะว่าจะต้องใช้อะไรบ้าง หวังว่าบล๊อกของนัทคงพอจะเป็นประโยชน์แกเพื่อนไม่มากก็น้อยนะคะ ^ ^

ก่อนอื่นเตรียมเอกสารกันก่อนคะ


1. เอกสารสำหรับผู้ดำเนินการ

- พาสปอร์ตตัวจริง
- สำเนาพาสปอร์ต พร้อมถ่ายเอกสารทุกหน้าที่มีแสตมป์ (ทุกหน้าที่มีการแสตมป์เข้า-ออก ตม. ไปยังประเทศอื่น ๆ ที่คุณเคยไป)
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงและสำเนา
- ทะเบียนบ้านตัวจริงและสำเนา
- ใบเกิดตัวจริงและสำเนาถ้ามี (เพื่อนๆ บางท่านว่าไม่ต้องใช้ แต่นัทอ่านเจอในเวปว่ามี นัทเลยขอแจมเข้าไปด้วยคะ)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุลตัวจริงและสำเนาถ้ามี
- ใบหย่าตัวจริงและสำเนาถ้ามี

- ใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป - กลับ คะ (อันนี้พวกพี่ๆ น้องๆ ที่คอยให้คำแนะนำบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้คะ  แต่นัทเตรียมไปคะ)
- จดหมายจากบริษัทรับรองการทำงานเขียนถึงสานทูต ระบะวันลางาน เงินเดือนที่ได้รับ ระยะเวลาการทำงาน อย่างชัดเจน 
- จดหมายแนะนำตัว เป็นภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ (ส่วนตัวนัทเองเป็นภาษาอังกฤษคะ)
- สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือฝากประจำ / เสตทเม้น รายละเอียดการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน update ทั้งในสมุดและสำเนา แนะนำให้ใช้บัญชีที่คุณมีรายการสม่ำเสมอคะ  อาจจะเป็นบัญชีเดียวกับที่บริษัททำการจ่ายเงินเดือนให้คะ
- รูปถ่าย จำนวน 2 ใบ ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนนะคะ พื้นหลังสีขาว, ขนาด กว้างxยาว ประมาณ 2 นิ้ว , หน้าเต็ม ไม่สวมหมวก แว่นตา ไม่มีสิ่งปกคลุมใบหน้าและศรีษะคะ  ( ส่วนตัวนัทเองจะไปถ่ายที่ VFS ) เลยคะ เพราะเขารู้ระเบียบการของการถ่ายรูปดีคะ ไม่ต้องกลัวว่าถ่ายผิดกฏระเบียบคะ
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษ อยู่ที่ 142$ คะ
- เอกสารประกอบการสนับสนุนต่อการพิจารณาในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษถ้ามีนะคะสมุดเล่มรถยนต์คะ หรือ พวกโฉนดบ้านและที่ดินคะ แต่ต้องเป็นชื่อของเรานะคะ (เขาได้เห็นว่าเรามีภาระทางนี้อยู่ ยังไงเราก็ไม่แอบอยู่ประเทศเขาแน่นอนคะ)
2. เอกสารของสปอนเซอร์

- สำเนาพาสปอร์ตทุกหน้าที่มีแสตมป์คะ

- จดหมายแนะนำตัวของสปอนเซอร์คะ 

- สำเนา สลิปเงินเดือน 6 เดือนคะ

- สำเนา P60 

- หนังสือรับรองการทำงาน ฉบับจริง 

- statementย้อนหลังการเดินบัญชี 6 เดือนคะ 
- จดหมายรับรองค่าใช้จ่ายคะ ให้สปอนเซอร์เขียนจดหมายรับรองค่าใช้จ่ายให้แก่เราด้วยนะคะ  โดยระบุความสัมพันธ์ลงไปในเนื้อหาด้วยว่าเขาจะรับรองค่าใช้จ่ายให้แก่เราตลอดระยะเวลาที่เราอยู่และอาศัยที่อังกฤษ รวมถึงการรับรองที่พักของเราด้วยคะ พร้อมทั้งลงชื่อรับรองด้วยนะคะ
- หนังสือรับรองการทำงาน ฉบับจริง 

- statementย้อนหลังการเดินบัญชี 6 เดือนคะ 
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณและสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายความสัมพันธ์ รูปถ่ายที่พักของสปอนเซอร์ อีเมลล์ เฟสบุ๊ค ไลน์ ปริ้นมาให้หมดทุกอย่าง ใบเสร็จโรงแรมที่มีชื่อคุณและชื่อสปอนเซอร์ร่วมด้วยกัน หรือพวกเอกสารการโอนเงินหากทางสปอนเซอร์เคยมีการโอนเงินมาให้นะคะ (มีหลักฐานให้ดูเยอะๆกันเหนียวคะ อิอิ)


ปล. รอติดตามการกรอกใบคำร้องขอวีซ่าท่องเที่ยวออนไลน์ เพื่อนัด

ยื่นเอกสารที่ VFS นะคะ








วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Business English Vocabulary

เขียนโดย Unknown ที่ 20:23 0 ความคิดเห็น


ธุรกิจ Business English Vocabulary
money มัน-อิ เงิน,เงินตรา,จำนวนเงิน

rich ริช มั่งมี,อุดม,มีค่า,รูหรา

poor พรู ยากจน,ขัดสน,เลว,ไม่สมบูรณ์

trade ทเรด อาชีพ,การค้า,,ค้า

business บีส-เน็ซ ธุรกิจ,อาชีพ

commerce คอม-เมิซ การติดต่อ,คบค้า,พาณิชย์

factory แฟค-โทริ โรงงาน

company คัม-พะนี บริษัท

lose ลูส ขาดทุน,แพ้,สูญ,สิ้น,หมด

profit พรอฟ-อิท กำไร,ประโยชน์

cost ค็อซท ราคา,มูลค่า,ต้นทุน

expensive เอ็คซเพน-ซิฝ ราคาแพง

inexpensive อิเน็ซเพน-ซิฝ ราคาถูก

total โท-แท็ล รวมทั้งหมด,ยอด,เบ็ดเสร็จ

change เชนจ เปลี่ยน,แลก,เงินทอน

small change ซมอล เชนจ เงินทอน

Bath บาท เงินบาท

dollar ดอล-เลอะ เหรียญ(อเมริกัน-ดอลลาร์)

bank แบ็งค ธนาคาร,,เอาเงินไปฝากธนาคาร

revoke ริโฝค เรียกกลับคืนมา,ถอน,ลบล้าง

bankrupt แบงค-รัพท ล้มละลาย,คนล้มละลาย

store ซโท กอง,ร้านใหญ่ๆขายของถูกๆ

shop ฌ็อพ ร้านขายของ,ไปตลาด,โรงงาน

food shop ฟูด ฌ็อพ ร้านอาหาร

restaurant เรซ-โทะแร็นท ภัตตาคาร

office ออฟ-ฟิซ สำนักงาน,ที่ทำการ

buy ไบ ซื้อ,ซื้อของ

sale เซล การขาย,จำนวนที่ขายได้

pay เพ ชำระ,ให้ค่าจ้าง,เงินเดือน

receive รีซีฝ- รับ,ต้อนรับ

borrow บอ-โร ยืม,ขอยืม,กู้

lend เล็นด ให้ยืม,ให้

loan โลน ให้กู้,เงินกู้

tax แท็คซ ภาษี,เก็บภาษี

interests อีน-ทเร็ซท ส่วนได้ส่วนเสีย,ดอกเบี้ย

license ไล-เซ็นซ อนุญาต,สิทธิ,ใบอนุญาต

luxury ลัค-ฌุริ ฟุ่มเฟือย,ของไม่จำเป็น,,น่าสบาย

economy อิคอน-โอะมิ ประหยัด,วิธีประหยัด



Credit: อาจารย์ คริส เชียงใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Job.

เขียนโดย Unknown ที่ 17:09 0 ความคิดเห็น



Which job do you want to work as and why?


อยากทำงานอาชีพอะไร แล้วเพราะ


เช่น


I want to work as a chef because I like creating different 

kinds of flavors and I like to be creative and arty with the 

meal layout on dishes. 

1. Teacher
ครู

2.Nurse
นางพยาบาล

3.Doctor
หมอ

4.Chef
เชฟ

5.Lawyer
ทนายความ

6.Actor
นักแสดง

7.Singer
นักร้อง

8.Musician
นักดนตรี

9.Police-officer
ตำรวจ

10.Fire-fighter
นักดับเพลิง

11.Waiter / Waitress
บริกร ชาย/หญิง

12.Baker
คนทำขนมเค้ก / ขนมปัง

13.Soldier
ทหาร

14.Pilot
นักบิน

15.Postman
บุรุษไปรษณีย์

16.Farmer
ชาวนา

17.Engineer
วิศวกร

18.Fisherman
ชาวประมง

19.Artist
จิตรกร/ศิลปิน

20.Businessman
นักธุรกิจ

21.Translator
นักแปล

22.Accountant
นักบัญชี

23.Architect
สถาปนิก

24.Secretary
เลขา

25.Plumber
ช่างประปา

26.Boss
เจ้านาย

27.Manager
ผู้จัดการ

28.Politician
นักการเมือง

29.Carpenter
ช่างไม้

30.Model
นางแบบ

31.Electrician
ช่างไฟ

32.Gardener
ชาวสวน

33.Pharmacist
เภสัชกร

34.Guide
ไกด์ / มัคคุเทศก์

35.Receptionist
พนักงานต้อนรับ

36.Photographer
ช่างภาพ

37.Housekeeper
แม่บ้าน

38.Mechanic
ช่างยนต์

39.Shop-keeper
พ่อค้า / แม่ค้า

40.Vet
สัตวแพทย์

41.Tailor
ช่างตัดเสื้อ



Credit:  อาจารย์คริส เชียงใหม่

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำสอนของแม่

เขียนโดย Unknown ที่ 20:45 0 ความคิดเห็น
"คำที่แม่บอกลูกชาย ก่อนที่จะรับภรรยา ที่พึ่งแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านของตัวเอง "
ลูกค่ะ...

ตอนที่เมียของลูกยังเป็นสาว เขาอยู่บ้านพ่อแม่เขา เขาเลี้ยงกันมาเอง ข้าวบ้านเราสักเม็ด น้ำบ้านเราสักแก้วเราก็ไม่เคยให้เขาได้กิน แต่เป็นเพราะคำว่ารัก เขาจึงจากอ้อมอกอันอบอุ่นของพ่อแม่เขา มาใช้ชีวิตอีกครึ่งค่อยที่บ้านเรา มาเป็นเมียของลูก มาเป็นลูกสะใภ้ของพ่อกับแม่ เอาพ่อแม่ของลูกเป็นพ่อแม่ของตัวเอง เอาพี่น้องของลูกเป็นพี่น้องของตัวเอง เจ้าพูดสิ! หากเราไม่ทำดีกับเขา มันน่าละอายต่อพ่อแม่ของเขาหรือเปล่า?
เวลาผู้ชายเจออาหารที่ชอบกิน ก็จัดการซะพุงกาง เมื่อท้องอืดก็รู้สึกไม่สบายตัว ต้องหาทางออกไปเดินเล่นเตร็ดเตร่ เจ้าคิดดูสิ! เมียของลูกต้องอุ้มท้องให้บ้านเราตั้งสิบเดือน หากเขาไม่ยินดีที่จะเป็นแม่ ใครกันจะยอมทนอึดอัดแสนทรมานอย่างนั้นเพื่อให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ ลูกที่เกิดมาก็ไม่ได้ใช้แซ่สกุลของตัวเอง เจ้าพูดสิ! หากเราไม่ทำดีต่อเขา มันน่าละอายไหมที่เขายอมสละเพื่อบ้านเราขนาดนั้น?
ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงต่างก็มีอารมณ์อ่อนไหว ผู้ชายอ่อนไหวกับเรื่องราว หากคิดว่าเรื่องใดไม่ถูกต้อง ก็จะฝังใจ ต่อให้เรื่องนั้นมันจะผ่านไปแล้วก็ตาม ก็ยังโมโหไม่หาย ส่วนผู้หญิง อ่อนไหวกับคำพูด หากฟังแล้วไม่เข้าหู ยิ่งฟังก็จะยิ่งอารมณ์เสีย ต่อให้มันผ่านไปแล้วก็ยังโมโหไม่หาย ดังนั้น ลูกเป็นผู้ชาย ต้องรู้จักลดทิฐิลงก่อน พูดอะไรที่เมียเจ้าชอบฟัง ต้องรู้จักเอาใจใส่ ลูกก็สบายใจ เมื่อสิ่งนี้คือความสุขใยเจ้าจะไม่ลงมือทำเล่า!
โลกนี้ผู้หญิงสวยๆมีเยอะ แต่เมื่อแต่งงานแล้ว จะวอกแวกไม่ได้ และอย่าเอาเมียของเจ้าไปเปรียบกับหญิงอื่น
ชีวิตของคนเรา เกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ประเพณีไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดูที่ต่างกัน จึงเป็นที่มาของนิสัยและความชอบที่ไม่เหมือนกัน จนถึงช่วงที่แต่งงานความชอบและนิสัยก็ถูกฝังแน่นแล้ว คำโบราณกล่าวว่า “ถมทะเลย้ายภูเขายังว่าง่าย แต่นิสัยเปลี่ยนยาก” เมื่อเจ้าแต่งงานแล้ว ก็อย่าได้เอามาตรฐานการเป็นอยู่ของเจ้าไปตัดสินความต่างของเขาว่าเป็นข้อบกพร่อง พ่อหวังว่าเจ้าจะเริ่มจากตัวเจ้าก่อน เปลี่ยนแปลงตัวเจ้าก่อน
สังคมสมัยนี้ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างทำงานนอกบ้าน เจ้าก็ต้องช่วยทำงานบ้าน ไม่ใช่ปล่อยให้เมียทำงานบ้านอยู่คนเดียว เมียของเจ้าเจ้าก็ต้องรัก หากวันหนึ่งมีใครคนอื่นที่รักเมียของเจ้ามากกว่าเจ้ารัก ลูกก็เตรียมรับมือกับปัญหาที่จะตามมาได้เลย

credit: @Khun Hnu Marie

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ความรู้สึกผ่านตัวอักษร

เขียนโดย Unknown ที่ 02:34 0 ความคิดเห็น
สวัสดีคะ วันนี้นัทจะมาพูดเกี่ยวกับความรู้สึกผ่านตัวอักษรกันคะ  (ต้องขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่าไม่ได้เกี่ยวกับนิยายหรือว่าบทความอะไรคะ)  แต่มันคือความรู้สึกของนัทเองกับเพื่อนๆ ทางโลกออนไลน์

ในยุคสมัยนี้ เราต้องยอมรับว่าโลกของอินเตอร์เน็ตมันสำคัญกับมนุษย์เราไม่ใช่น้อยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลข่าวสาร  หรือการส่งจดหมายอย่างรวดเร็วทันใจให้กับเพื่อนต่างแดนคะ หรือแม้กระทั้งต้องการจะซื้อของ เราก็สามารถสั่งซื้อกันทางอินเตอร์เน็ตได้แล้วเช่นกันคะ

แต่เรื่องที่จะกล่าวนี้คือ การได้เพื่อนใหม่บนโลกอินเตอร์เน็ตคะ  เดี๋ยวนี้จะมีหลายๆเว็บไซต์นะคะ ที่สามารถหาเพื่อน หรือหาแฟนคะ คุยกันผ่านบล๊อก ได้คะ  



เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าคะ คือนัทได้เข้าไปเล่นเว็บไซต์นึงคะ ยอมรับว่าแรกๆ ติดมาก ต้องเข้าทุกวัน เวลาว่างก็จะต้องเข้าไปคะ และเว็บไซต์นี้ก็ทำให้เราได้เพื่อนสาว ดีๆ มาหลายคนคะ ไม่ใช่เป็นแค่เพื่อนทางอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวนะคะ  แต่เรามีการนัดเจอปาร์ตี้กัน ปรึกษาปัญหากันคะ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็ ก็จะคอยช่วยกันให้คำแนะนำกันตลอดคะ 

ถามว่าทำไมถึงได้มาเป็นเพื่อนกันได้นะเหรอคะ  นัทก็จะขอตอบว่า ก็เพราะตัวอักษรของบรรดาเพื่อนสาวๆ เนี้ยแหละคะ เวลาเขาพิมพ์ หรือเขาบรรยาย เรื่องส่วนตัวของเขาผ่านเว็บไซต์ พออ่านแล้วมีความรู้สึกว่าเขา เป็นคนที่น่าคบหา นั้นแหละคะ มันเลยทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการที่ต้องการจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้นคะ  

แต่ก็ยังมีหลายๆ คนนะคะ ที่นัทอ่านเรื่องของสาวๆ ในเว็บไซต์ แต่ยังไม่เคยเจอตัวกัน แต่ก็มีความรู้สึกว่าชอบเขา อยากเป็นเพื่อนกับเขาคะ เพราะเวลาอ่านเรื่องราวของเขาเวลาที่เขาบรรยาย คำพูด หรือตัวอักษรที่เขาใช้ มันอ่านแล้วมีความรู้สึกอบอุ่นคะ รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของเขาคะ  ถามว่าเสียใจไหมที่ไม่สามารถทำความรู้จักกันมากกว่าคำว่าเป็นเพื่อนออนไลน์ ตอบเลยว่า ใช่คะ แต่ในเมื่อสถานการณ์มันไม่อำนวยให้เราสามารถติดต่อ นัดเจอกันมากกว่าคำว่าเพื่อนออนไลน์  ก็ไม่เป็นไรคะ  ขอให้แค่ได้อ่านเรื่องราวของเขา การสื่อสารทางตัวอักษรที่นุ่มนวล มันก็โอเคแล้วคะ

ตัวอักษรสามารถทำให้มีคนรัก และคนเกลียดได้คะ คุณต้องรู้จักที่จะใช้มันคะ ^ ^

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2557

OEM ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

เขียนโดย Unknown ที่ 00:55 0 ความคิดเห็น


วันนี้เรามาทำความรู้จักการทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นแบรนด์ของตัวเองกันคะ

เมื่อเราพูดถึง OEM ยังมีหลายๆ คนยังไม่ทราบนะคะ ว่ามันคืออะไร  ( มาดูกันคะว่ามันคืออะไร )

OEM ย่อมาจาก Origianl Equipment Manufacturer หมายถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยใช้การผลิตของโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี (GMP) และทางโรงงานนั้นๆ จะมีการดำเนินการให้ทุกอย่างตั้งแต่ การยื่นจดทะเบียน อย. รวมไปถึงการทำ Package โดยที่ลูกค้าไม่ต้องยุ่งเรื่องการผลิตเลย เมื่อผลิตภัณฑ์เสร็จ ลูกค้าก็สามารถมารับสินค้า พร้อมไปทำการตลาดได้เลยคะ

การทำ OEM นั้นไม่ยุ่งยากอะไรคะ มันเลยทำให้มีการทำอาหารเสริมออกมาเป็นจำนวนมากมาย หลายหลาก ให้เราเลือกสรร กันมารับประทานคะ  แต่ก็ต้องขอเตือนเพื่อนๆ ที่ชอบรับประทานอาหารเสริมนะคะ ว่าเดี๋ยวนี้ มีการทำอาหารเสริมที่ไม่ถูกต้องโดยเอาเลข อย. ของบริษัทที่ขอ อย.อย่างถูกต้องเอาไปสวม และทำการขายกันมากมายตามท้องตลาดคะ 

เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องมีการตรวจเช็คให้ดี ก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมารับประทานคะ ^ ^


วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

English for Dental Clinic staff

เขียนโดย Unknown ที่ 18:28 0 ความคิดเห็น

English for Dental Clinic staff

ภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานคลินิกทำฟัน



At the reception - ณ แผนกต้อนรับ

can I make an appointment to see the ...?
ฉันสามารถนัดหมอฟันได้ไหม?

dentist หมอฟัน/ ทันตแพทย์

hygienist ทันตภิบาล (เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดฟัน)

I'd like a check-up ฉันต้องการตรวจฟัน

please take a seat กรุณานั่งลง

would you like to come through? กรุณาเชิญทางนี้

Having your teeth examined - ตรวจเช็คฟันของคุณ

when did you last visit the dentist? คุณพบหมอฟันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?

have you had any problems? คุณมีปัญหาอะไรบ้างไหม?

I've got toothache ฉันปวดฟัน

one of my fillings has come out สิ่งที่อุดฟันไว้มันหลุดออกไป

I've chipped a tooth ฉันฟันบิ่น

I'd like a clean and polish, please ฉันอยากจะขูดหินปูนและขัดฟั

can you open your mouth, please? กรุณาอ้าปากหน่อยได้ไหม?

a little wider, please อ้าปากกว้างอีกนิด

I'm going to give you an x-ray ฉันจะทำการเอ็กซเรย์ให้คุณ

you've got a bit of decay in this one ฟันซี่นี้ของคุณผุนิดหน่อย

you've got an abscess ฟันคุณมีถุงหนอง

Dental treatment - การรักษาเกี่ยวกับฟัน

you need two fillings คุณต้องอุดฟันสองซี่

I'm going to have to take this tooth out ฉันจะถอนฟันให้คุณ

do you want to have a crown fitted? คุณต้องใส่ครอบฟันไหม?

I'm going to give you an injection ฉันจะฉีดยาให้คุณ

let me know if you feel any pain บอกฉันถ้าคุณรู้สึกเจ็บ

would you like to rinse your mouth out? คุณอยากจะบ้วนปากไหม?

you should make an appointment with the hygienist 
คุณควรจะนัด ทันตภิบาล เพื่อขูดหินปูน

how much will it cost? ราคาเท่าไหร่?


Credit : อาจารย์คริส เชียงใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รอยสัก......

เขียนโดย Unknown ที่ 19:11 0 ความคิดเห็น


เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสพาว่าที่สามีนามว่าไมเคิลไปสักยันต์คะ  
อันนี้ต้องขอบอกตรงๆว่าเป็นคนชอบลายสักนะคะไม่ว่าจะแบบแฟชั่น หรือว่าสักยันต์ของไทยเราคะ
ตอนนี้ก็มีลายสักแฟชั่น 1 ลายแล้วคะ บนร่างกายของตัวเอง ไม่ใหญ่มากคะ เพราะกลัวเจ็บ ฮ่าๆ
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าคะ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2557 ได้พาฝรั่งฮีนามว่า ไมเคิล ไปสักยันต์มาคะ
ฮีหลงไหลในการสักคะ และอยากสักยันต์แบบมีครู ของไทยเราแบบนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาศ
และเมื่อโชคชะตาบันดาลให้เราสองคนเจอกัน คริ คริ ฮีก็ถามเรื่องสักยันต์ 
นัทเองเลยแนะนำว่ามีทีนึง เพราะน้องในออฟฟิสเคยไปสักมาแล้วคะ 
เราสองคนเหมาแท็กซี่คนสนิทไปคะ 1,500 บาท เลี้ยงข้าว และเบียร์พร้อมคร๊าาา แต่ก็ต้องรอนานอยู่เหมือนกันคะ
เพราะพอไปถึง ไมเคิลเห็นลายต่างๆ ที่เขามีร่างไว้ ฮีแกเลยอยากสักหลายลายคะ
สรุปก็ได้ 4 ลายคะ
ลายแรก  ห้ายอดคะ    299 บาท  ( ลายแรกนะคะ ฮีแกไม่สะดุ้งสะเทือนคะ )
ลายที่สอง  ห้าแถวคะ    499 บาท  ( ลายที่สอง นั่งสบายๆๆๆ คร๊าาา )
ลายที่สาม  มงคลครอบจักรวาลคะ    999 บาท  ( ลายที่สาม เริ่มมีการบ่นว่าเมื่อยคะ และบิดไปบิดมา ฮิฮิ )
ลายที่สี่  พ่อฤาษีอาจารย์ครูคะ    599 บาท  ( จุดไคแม็กอยู่ที่ลายสุดท้ายเนี้ยแระคะ ฮีบ่นตลอด ว่าเจ็บๆๆ )
แต่สุดท้ายๆๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะ 
การที่เราจะสักยันต์มีครูแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเรานึกอยากจะสักก็สักนะคะ  
การสักยันต์แบบนี้มีข้อห้ามต่างๆ คะ 
เดี๋ยวเรามาดูกันคะ ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้าง
1. ห้ามด่าทอพ่อแม่
2. ห้ามลบลู่ครูบาอาจารย์
3. ห้ามโกหก
4. ห้ามลักขโมย
5. ห้ามประพฤติในกาม
6. ห้ามทำร้ายสัตว์
7. ห้ามดื่มสุราหรือของมึนเมา
พอสักเสร็จ ก็รอ ไหว้ครูลงของพร้อมกับน้องผู้ชายวัยรุ่นอีกคนนึง ซึ่งน้องเขามาหลังไมเคิลคะ 
พอถึงเวลาไหว้ครูลงของ เนี้ยสิคะ ไม่รุ้จะบรรยายยังไง คือนัทเองไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องตลกหรือว่าอะไรนะคะ 
แต่มันอดขำไม่ได้จริง เรื่องของเรื่องก็คือ อาจารย์นันท์ที่เป็นคนทำพิธี แกบอกให้นัทนำไมเคิลสวด "นโม ตัสสะ ภะคะวะโต ฯลฯ " ด้วยความที่ไมเคิลเป็นฝรั่ง เขาก็พูดไทยไม่ได้ เขาก็พยายามสวดตาม และน้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากปากของเขาเนี้ยแระคะ ที่มันทำให้นัท กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
อาจารย์นันท์แกเห็นคงอดไม่ไหว เลยต้องเป็นคนนำเอง 
สุดท้ายนี้ นัทก็ต้องขอกราบขอโทษอาจารย์ครูทั้งหลายที่หัวเราะตอนนั้นด้วยเถอะนะคะ หนูไม่ได้มีความประสงค์จะลบลู่แต่อย่างใดเจ้าคะ

.............................

ความเชื่อกับการดูดวง

เขียนโดย Unknown ที่ 18:53 0 ความคิดเห็น


วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับหมอดูให้เพื่อนๆ ที่นี้อ่านคะ
ตรงนี้ต้องขอบอกก่อนนะคะ ว่าเป็นคนชอบดูหมอคะ  เรื่องที่จะเล่านี้มันนานมามากแล้ว  
     เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่นัทจะกลับมาใช้ชีวิตกรุงเทพฯ อีกครั้ง นัทเองได้ไปเที่ยวและสัมมนากับเพื่อนๆ ชาวพัทลุง  แถวสุพรรณบุรี  และทางสัมมนาได้แวะพาทำบุญด้วยคะ เราได้แวะทำบุญที่วัดทับกระดานกัน  เป็นที่รุ้กันว่าที่วัดทับกระดาน  คือวัดที่คุณแม่พุ่มพวงอยู่นั้นเอง เมื่อได้มีโอกาสมา ดิฉันก็เลยบนกับคุณแม่พุ่งพวงคะ หลังจากบนเสร็จแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับพัทลุงกัน 
     พอกลับไปพัทลุงไม่นาน ดิฉันก็หย่ากับสามี และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ คะ  เริ่มต้นชีวิตใหม่ และหางานทำ  ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา นัทเองก็ดูดวงทุกปี ปีนึงไม่ใช่แค่หนเดียวนะคะ ไหนจะตามเว็ปไซต์ก็เข้าไปอ่านคะ เป็นคนชอบดูดวงจริงๆคะ แต่ก็ไม่ถึงกับจะบ้าตามหมอดู ที่หลอกคนให้จ่ายเงินมากมายเพื่อทำนุ้นนี่นะคะ
     ไปดูดวงแต่ละที่หมอดูก็จะทักตลอด ว่านัทไปบน อะไรไว้ ทำไมไม่ไปแก้  นัทก็บอกว่า "ไม่มีนะคะ หนูไม่ได้บนที่ไหนนะคะ  มีก็บนที่หลวงพ่อโสธร  แต่ไม่สำเร็จนะคะ"   เป็นอย่างนี้ตลอด 3 ปีคะ หมอดูเหมือนจะทุกหมอดูทักตลอดคะ  
พอเมื่อปีที่แล้ว นัทไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่กาฬสินธ์ุ  เพื่อนก็เลยถือโอกาสพากันไปดูดวง เพราะนางก็ชอบดูดวงเหมือนกันคะ  วันนั้นเราไปกัน 3 สาว  พอไปถึงที่หมอดู โอโห้ บ้านหมอดูใหญ่โตมากกกก ดิฉันคิดเลยว่าสงสัยจะแพงคะ  แต่ไปถึง ไม่เลยคะ เห็นมีเด็กนักเรียน ม.ปลาย กำลังนั่งดูกันอยู่
สักพักก็มีผู้หญิงออกมาต้อนรับ แล้วแนะนำให้พวกเราต้องทำอะไรบ้าง  เธอบอกให้พวกเรานำเงินไปใส่พานดอกไม้ธูปเทียน คนละ 100 บาท  
พอพึงคิวนัท  หมอดูคนนี้จะไม่พูดเรื่องดีเยอะคะ ถ้าดีก็คือดี ส่วนใหญ่แกจะทักเรื่องที่ไม่ดีของเรา และบอกให้เราไปแก้กรรมนั้น  แกมองวันเดือนปีเกิดนัท แล้วแกก็บอกนุ้นนี่นั้นดีทุกอย่างแล้วไม่ต้องดูเยอะ  แต่มีอย่างนึงที่หมอดูท่านทักมาคะ ว่า "เราไปบนอะไรไว้ ทำไมไม่ไปแก้"  แบบเดิมคะ นัทก็พูดตามเดิม "ไม่นะคะ ไม่ได้บนอะไรไว้คะ ที่บนๆ มาก็ไม่เคยสำเร็จนะคะ"  สักพักท่านก็ก้มมองลงไปในขันที่มีน้ำมนต์ของท่านแล้วพูดว่า " ไม่บนได้ไง ก็ฉันเห็นเป็นหน้าพุ่มพวงอยู่เนี้ย"  เท่านั้นแระคะ นัทพึงบางอ้อคะ นัทไปบนที่คุณแม่พุ่มพวงจริงๆ เมื่อ 3 ปีก่อน และยังไม่ไปแก้  ดูสิคะ เพื่อนๆ ลืมได้ไงตั้ง 3 ปี
สรุปแล้วที่หมอดูคนก่อนๆๆ ทักเรื่องไปบนมาคือจริงคะ  แต่ก็ไม่มีหมอดูคนไหนที่จะระบุคนหรือสถานที่เราบนไว้ได้เหมือนกับหมอดูท่านนี้คะ
และนัทก็ได้แก้บนแล้วเมื่อวันที่  1 พฤษภาคม นั้นก็คือวันแรงงานแห่งชาติของเรานี้เองคะ
ตอนนี้ก็รุ้สึกสบายใจขึ้น  ที่เราได้แก้บนแล้ว  และอยากจะกราบขอโทษคุณแม่พุ่มพวง ไว้ตรงนี้คะ ว่าลูกขอโทษจริงๆ ที่แก้บนช้า  มันเป็นเพราะความลืมของลูกเองคะ 
.............................................................................................................................................................

อย่าวัดคนที่การศึกษา.....

เขียนโดย Unknown ที่ 02:36 0 ความคิดเห็น


เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เป็นชาวสงขลา เรียนเก่งมาก ได้ทุนไปเรียนอเมริกาตั้งแต่เด็กจนจบด็อกเตอร์ จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน
บ้านของเด็กหนุ่ม อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบสงขลา ต้องนั่งเรือแจวข้ามไป ใช้เวลาแจวประมาณหนึ่งชั่วโมง


“เรือที่ติดเครื่องยนต์ไม่มีเหรอ ลุง? ”
“ไม่มีหรอกหลาน ที่นี่มันบ้านนอก มันห่างไกลความเจริญมีแต่เรือแจว”
“โอ...ล้าสมัยมากเลยนะลุง โบราณมาก ที่อเมริกาเขาใช้เครื่องบินกันแล้วลุง ลุงยังมานั่งแจวเรืออยู่อีก ไปส่งผมฝั่งโน้น เอาเท่าไหร่ลุง?”
“80 บาท”
“OK…ไปเลยลุง”


ในขณะที่ลุงแจวเรือ หนุ่มนักเรียนนอกก็เล่าเรื่องความทันสมัย ความก้าวหน้า ความศิวิไลช์ ของอเมริกาให้ลุงฟัง

“เมืองไทย...เมื่อเทียบกับอเมริกาแล้วล้าสมัยมาก ไม่รู้คนไทยอยู่กันได้ยังไง? ทำไมไม่พัฒนา ทำไมไม่ทำตามเขาเลียนแบบเขาให้ทัน? ลุง...ลุงใช้คอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นไหม? ”
“ลุงไม่รู้หรอก...ใช้ไม่เป็น”
“โอโฮ้...ลุงไม่รู้เรื่องนี้น่ะ ชีวิตลุงหายไปแล้ว 25%”
“แล้วลุงรู้ไหมว่า เศรษฐกิจของโลกตอนนี้เป็นยังไง? ”
“ลุงไม่รู้หรอก”
“ลุงไม่รู้เรื่องนี้นะ ชีวิตของลุงหายไป 50%”
“ลุง...ลุงรู้เรื่องนโยบายการค้าโลกไหมลุง? ”
“ลุง...ลุงรู้เรื่องดาวเทียมไหมลุง? ”
“ลุงไม่รู้หรอก...หลานเอ๊ย”
“ชีวิตของลุง ลุงรู้อยู่อย่างเดียวว่าจะทำยังไงถึงจะแจวเรือให้ถึงฝั่งโน้น ถ้าลุงไม่รู้เรื่องนี้ ชีวิตของลุงหายไปแล้ว 75%”


พอดีช่วงนั้นเกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง คลื่นลูกใหญ่มาก ท้องฟ้ามืดครึ้ม

“นี่พ่อหนุ่มเรียนหนังสือมาเยอะจบดอกเตอร์จากต่างประเทศ ลุงอยากถามอะไรสักหน่อยได้ไหม? ”
“ได้...จะถามอะไรหรือลุง? ”
“เอ็งว่ายน้ำเป็นไหม? ”
“ไม่เป็นจ๊ะ...ลุง”
“ชีวิตของเอ็งกำลังจะหายไป 100% แล้วพ่อหน่ม“


อย่าคิดว่าตัวเราเหนือกว่าคนอื่นเพียงแค่มีการศึกษาสูง ยังมี


ประสบการณ์ชีวิตที่ต้องศึกษาอีกมาก แม้จะไม่มีใบประกาศมอบให้

เครดิต : เพจ คนอยากรวย

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประวัติแหวนแต่งงาน

เขียนโดย Unknown ที่ 20:08 0 ความคิดเห็น


นัก มานุษยวิทยาเชื่อว่าประเพณีการแลกแหวนแต่งงานเกิดขึ้นราว 2,800 ปีก่อนคริสตกาล เพราะชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าเส้นเลือดจากนิ้วนางข้างซ้ายเป็นเส้นเลือดที่ แล่นตรงเข้าสู่หัวใจ จึงเลือกที่จะสวมแหวนที่นิ้วนี้โดยเฉพาะ  ในระยะแรกแหวนที่ใช้ก็เป็นวัสดุทรงกลมธรรมดาที่ทำจากหญ้าถัก ป่านถัก หรือไม่ก็เป็นขนหางม้าถัก ซึ่งเข้าใจว่าคู่สมรสจะสวมติดนิ้วไปจนกระทั่งเสื่อมสลาย จึงเปลี่ยนวงใหม่    
มี เพียงชาวอียิปต์โบราณเท่านั้นที่สามารถใช้แหวนทองคำเกลี้ยงได้ ซึ่งในยุคนั้นใช้แทนเงินได้ และยังเป็นเครื่องแสดงถึงความร่ำรวย รวมทั้งสถานะทางสังคมของบ่าวสาวอีกด้วย  จนกระทั่งปีค.ศ. 1477 แหวนเพชรจึงกลายเป็นแหวนแต่งงานยอดนิยม เมื่ออาร์ชดยุคเม็คมิลแลนแห่งเยอรมัน มอบแหวนหมั้นเพชรแดคู่หมั้น-แมรี่แห่งแคว้นเบอร์กันดี

คงไม่มีเครื่องประดับชิ้นไหน ที่ให้ความรู้สึกผูกพันและมีความสำคัญเท่ากับ "แหวนแต่งงาน" แหวนทรงกลมอันเล็กๆ ที่มักพบเห็นได้บริเวณนิ้วนางข้างซ้ายและอยู่ติดตัวคุณทุกวันทุกเวลา ซึ่งนั่นหมายถึงสัญลักษณ์ของความรักที่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีแต่งงาน ดังนั้น คุณจึงต้องการ "แหวนแต่งงาน" ที่ทำให้คุณรู้สึกว่ามันมีค่า รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงมีบุคลิค รสนิยม และความเป็นตัวของคุณเองด้วย 
ที่ สำคัญการเลือกแหวนแต่งงานควรเลือกจากความรู้สึก อย่าเลือกตามความคิดเห็นของผู้อื่น ถ้ารู้สึกว่าชอบแบบนี้และมีความสุขถ้าจะใส่ติดนิ้วไปตลอดชีวิตวงนั้น แหละ...ใช่เลย

สำหรับ สิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงอันดับแรกในการเลือกแหวนแต่งงาน คือ ตัวโลหะที่เป็นแหวน ซึ่งมีทั้งแบบเป็นทองคำสีเหลืองอร่ามและแบบที่เป็นทองคำขาว หรืออาจจะประกอบไปด้วยทองคำทั้งสองสีในหนึ่งวงก็ได้ แต่ทางที่ดีควรจะเลือกสีทองคำที่เหมาะกับสีผิว และความชอบของตัวคุณเอง 
สำหรับ ผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว แหวนแต่งงานแทบจะเป็นเครื่องประดับชิ้นเดียวที่เขาสวมใส่นอกจากนาฬิกาข้อมือ เพราะฉะนั้นจึงควรพิถีพิถันในการเลือกรูปแบบ และถึงแม้ว่าแหวนแต่งงานส่วนใหญ่ มักจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ก็สามารถสอดแทรกดีไซน์หลากหลายตามแต่ความชอบ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณตัดสินใจซื้อแหวนแต่งงาน อย่าลืมเลือกดีไซน์ที่เหมาะกับมือของคุณ เช่น


-  แหวนที่หน้าแคบมากๆ ไม่เหมาะกับมือที่กว้างและใหญ่ เพราะจะทำให้มองแหวนไม่ค่อยเห็น
-  ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบแหวนที่มีหน้ากว้างแต่เป็นคนที่มีนิ้วกว้างหรือใหญ่ ก็ควรจะเลือกแหวนที่มีขอบมน 
-  แหวนที่มีลักษณะแบนเรียบ หน้าตัด จะดูสวยกว่าบนนิ้วที่เรียวยาว 
-  แหวนที่มีดีไซน์มีช่องโปร่ง จะให้ความรู้สึกบางเบา เหมาะบนมือที่กว้าง
-  แหวนที่มีเพชรหรือพลอยเม็ดใหญ่ ก็เหมาะกับมือที่มีขนาดใหญ่เช่นกัน 
-  สำหรับคนที่มีมือที่เล็กและผอมบางจะเหมาะกับแหวนที่มีเพชร หรือพลอยประดับเม็ดเล็กๆ หลายๆ เม็ด

Credit : TKGOLDS

BULATS TEST

เขียนโดย Unknown ที่ 19:52 0 ความคิดเห็น


ก่อนต้องขอบอกก่อนนะคะว่าใครจะยื่นวีซ่าติดตามสามีประเทศอังกฤษโดยการยื่นผลการสอบ Bulats A1 จะยกเลิก วันที่ 30 มิถุนายน และจะเปลี่ยนเป็นระบบสอบแบบ Ket A2 คะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ท่านต้องการจะทำวีซ่าประเทศอังกฤษต้องรีบไปสอบก่อนนะคะ

  • BULATS คืออะไร ?
BULATS ย่อมาจาก Business Language Testing Service ศูนย์ทดสอบภาษาอังกฤษธุรกิจ มีบริการข้อสอบ ถึง 4 ภาษาคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และสเปนการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ระบบปรับเปลี่ยนคำถามด้วยตัวเองนี้ จะประกอบไปด้วยคำถามของทักษะด้านการฟังและการอ่าน รวมทั้งความรู้ด้านภาษาอังกฤษทั่วไป ส่วนทักษะด้านการเขียนและการพูดจะแยกสอบต่างหาก

  • ความถูกต้องแม่นยำของ BULATS Test คืออะไร?
หัวใจสำคัญของ BULATS มีสองประการ คือ ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ
ความถูกต้องจะสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของการสอบ เช่น การสอบสามารถบ่งชี้ถึงความสามารถของผู้เข้าสอบหรือไม่  การทำข้อสอบได้หมายถึงความสามารถในการใช้ภาษาในโลกแห่งความเป็นจริงหรือไม่
BULATS จะใช้สถานการณ์ในการทำงานจริงๆ เพื่อทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในโลกธุรกิจของผู้เข้าสอบ
BULATS Test จะทดสอบว่าคุณสามารถใช้ภาษาได้ดีหรือไม่ ไม่ใช่ว่าคุณรู้ภาษามากน้อยเพียงใด
ความน่าเชื่อถือ จะสัมพันธ์กับความแม่นยำในการวัดผล เช่น ผู้เข้าสอบจะได้รับคำถามที่มีอยู่แล้วเหมือนๆกัน แล้ว นำมาถามซ้ำหรือไม่? เราจะหวังว่าผู้สอบจะได้คะแนนเท่ากันในการสอบสองครั้งในข้อสอบชนิดเดียวกัน หรือ ในการสอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ตามมาตรฐานทั่วไป
ความน่าเชื่อถือของข้อสอบ BULATS จะอยู่ที่ 94 % ซึ่งนับว่าสูงมาก ซึ่งมีการนำสูตรความน่าเชื่อถือของ Rasch มาใช้ในการคำนวณ
การสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของ BULATS คือข้อสอบที่มีระบบการปรับเปลี่ยนคำถามได้ด้วยตัวเอง และ ระบบถูกรองรับโดยนำวิธีการรักษาความปลอดภัย และ การเข้ารหัสของฐานข้อสอบขนาดใหญ่มาใช้ จะมีคำถามมากกว่า  10,000 ข้อ โดยข้อสอบแต่ละข้อจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ ผู้เข้าสอบแต่ละคนจะได้คำถามที่ไม่เหมือนกัน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์จะเลือกคำถามข้อต่อไปโดยขึ้นอยู่กับคำตอบก่อนหน้าของผู้เข้าสอบ ผู้เข้าสอบจะได้คำถามที่มีความยากในระดับที่เหมาะสม โปรแกรมคอมพิวเตอร์จะประเมินความสามารถของผู้เข้าสอบได้แม่นยำกว่าข้อสอบแบบเก่ากับคำถามเดิมๆ
เพื่อนๆ สามารถสมัครสอบด้วยวิธีง่ายผ่านเฟสบุคนะคะ  ตามลิงค์นี้เลยคะ https://www.facebook.com/VantageFB

และเราสามารถนำเงินไปชำระที่สถาบันตอนวันเราไปติวเลยคะ ราคาก็ไม่แพงมากคะ เพื่อนๆ คนไหนกำลังจะไปสอบ นัทยินดีให้คำแนะนำนะคะ

( ทาง Vantage มีการสอบแบบ Ket A2 ด้วยนะคะ จะเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฏาคม เป็นต้นไปคะ สามารถติดต่อไปได้คะ )
 

Nuttanan.Blogger Copyright © 2012 Design by Antonia Sundrani Vinte e poucos